วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

บทความสุดท้าย

นางสาว ณัชญา อร่ามศรี ม.5/9 เลขที่ 10
                       มีงานเขียนจำนวนมาก มากมายพอพอกับจำนวนของนักคิด ทักทฤษฎีทางการบริหารได้พยายามให้คำจำกัดความหรือความหมายของผู้นำ อธิบายว่า ผู้นำที่ดีควรมีลักษณะ รวมทั้งมีคุณสมบัติอย่างไรจึงจะดี โดยเฉพาะในโลกยุคนี้ที่ คุณค่า ความเร็ว และความรู้ เป็นสิ่งที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ซึ่งสามารถทำให้องค์การอยู่รอดได้ หรือต้องล้มละลายหายไปจากตลาด หากเกิดความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย

ผู้นำแบบใดล่ะที่เหมาะสมกับยุคนี้

ผมขอยกเอางานเขียนของ Dr.Casper Shih ซึ่งได้เขียนบทความเรื่อง "New Leaders for the Next Century" ตีพิมพ์เมื่อปี 2002 ในวารสาร Productivity World

Dr.Casper แกบอกว่า ผู้นำยุคที่ "only the fittest survive" หรือยุคที่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจึงจะอยู่รอดเช่นในปัจจุบันนี้ จะต้องมีคุณสมบัติ (ผมว่าขั้นต่ำ) 3 เรื่องต่อไปนี้ครับ

1) ต้องดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศและความซื่อสัตย์
ที่เน้นคุณสมบัติในเรื่องของความซื่อสัตย์และเกียรติยศนี้ ก็เพราะโลกในยุคใหม่ แต่ละคนต่างก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง หรือเป็นผู้นำตัวเองได้ ดีบ้าง เก่งบ้างแตกต่างกันไป

ผู้นำจึงต้องพัฒนาตัวเองมาเป็น "leaders of the leaders"

ในยุคนี้ ผู้นำแบบอำนาจนิยม ชอบบังคับ ข่มขู่ ดูถูกว่าคนอื่นด้อยกว่า หรือคนอื่นฉลาดไม่เท่าตัวเอง หรือนิยมรวบอำนาจไว้กับตัวเองนั้น จะเป็นกลุ่มที่ไม่ประสบความสำเร็จได้เลย ผู้นำที่ดี จึงต้องรู้จักให้เกียรติลูกน้อง และสอนให้มีการให้เกียรติซึ่งกันและกันในที่ทำงาน ไม่ใช่อยากได้อะไรก็ด่าเอา รวมทั้งมีความจริงใจ ซื่อสัตย์ สร้างความเคารพและความไว้วางใจกันให้เกิดขึ้น ให้ลูกน้องได้รู้สึกว่า เขาได้รับการปฏิบัติอย่างใหเกียรติและจริงใจ เรื่องเหล่านี้ล่ะครับ สามารถทำให้เกิดความจงรักภักดีของคนต่อองค์การ ผูกใจคนให้ทำงานร่วมกัน รักและสามัคคีกัน บรรยากาศในการทำงานก็ดีตามไปด้วย

คราวนี้ โดยธรรมดาแล้ว ผู้นำก็ต้องวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของลูกน้อง ก็ไม่เป็นเรื่องแปลกครับ เพียงแต่ว่า ควรจะต้องทำด้วยความจริงใจ และถูกต้อง เกื้อกูลซึ่งกันและกันสมมติว่า เจ้าของธุรกิจที่มาเป็นผู้นำองค์การ แต่เป็นแบบอำนาจนิยมที่ว่านั้น จะทำอย่างไร ผมคงตอบอะไรไม่ได้หรอกครับ คงต้องตัวใครตัวมัน หรือยึดคติว่า "หากทำงานกับเขาแล้วไม่สบายใจ เราก็ลาออกไปเสียดีกว่า..."

2) ต้องมีวิสัยทัศน์
ผู้นำจะต้องสามารถสร้างวิสัยทัศน์ที่สามารถทำให้เป็นจริงได้ น่าเชื่อถือ สอดคล้องกับศักยภาพขององค์การตามสถานการณ์ ท้าทายและดึงดูดใจให้คนทำมันให้สำเร็จ นำไปสู่มาตรฐานการทำงานที่สูงขึ้น โดยที่วิสัยทัศน์ขององค์การเองก็ต้องมองการณ์ไกล เข้าใจง่าย โดยครอบคลุมในลักษณะกว้าง ๆ วิสัยทัศน์ที่ดีที่เกิดจากผู้นำนั้น จะต้องมองในเรื่องของการใช้ทรัพยากรขององค์การ โดยเฉพาะทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การที่จะทำแบบนี้ได้ ผู้นำเองก็ต้องมีบทบาทหนึ่งในการกระตุ้นให้พนักงานทุ่มเทในการทำงานอย่างสุดความสามารถ

3) ผู้นำต้องมีวิญญาณของความเป็นเด็ก (the heart of child)
วิญญาณของความเป็นเด็กนั้น คือ การมองโลกในแง่ดี คิดด้านบวก ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ บนพื้นฐานของจิตสำนึกบริสุทธิ์ ไม่เอาแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง นอกจากนี้ ผู้นำยังต้องมีความอยากรู้อยากเห็น แสวงหาความรู้ใหม่ ๆ มาเติมเต็มให้ตัวเองอย่างกระตือรือร้น เรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ปรับเปลี่ยนมันให้เป็นโอกาสให้ประสบการณ์ โดยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหามากกว่าหาตัวผู้กระทำผิด เพราะนั่นเป็นการบ่อนทำลายขวัญกำลังใจของพนักงานอย่างที่ท่านอาจจะไม่คาดคิด
ผู้หญิงก็เก่งได้
วันนี้ ผู้หญิงมีความสามารถในการทำงานเกือบทุกเรื่องเท่าเทียมกับผู้ชาย เรียกว่าสามารถทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายได้ทีเดียว
การก้าวขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของ "ผู้หญิง" ได้รับการยอมรับมากแค่ไหนในยุคปัจจุบัน ลองมาดูทำเนียบต่อไปนี้ค่ะ

อันดับที่ 10 Laura Chinchillaลอร่า ชินชิลล่า (Laura Chinchilla) วัย 50 ปี เพิ่งชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสาธารณรัฐคอสตาริก้า เธอจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของคอสตาริก้า และจะถูกนับเป็นประธานาธิบดีหญิงคนที่ห้าของกลุ่มประเทศละตินอเมริกาที่มี ประธานาธิบดีหญิงมาก่อนหน้านี้แล้ว คือ นิคารากัว ปานามา ชิลี และอาร์เจนติน่า และทั้งหมดนี้มาจากการเลือกตั้งทั้งสิ้น อย่าง ไรก็ตาม กล่าวกันว่า ลอร่า ชินชิลล่า ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของสาธารณรัฐฯ ได้รับการสนับสนุนจากนายออสการ์ อาเรียส ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และเธอจะเป็นผู้สานต่อนโยบายเศรษฐกิจของเขา โดยเฉพาะนโยบายตลาดเสรี และการค้ากับจีน นอกจากนี้ ลอร่า ชินชิลล่า ยังมีแนวคิดทางสังคมแบบอนุรักษ์นิยมในบางประเด็น เช่น คัดค้านการทำแท้ง และการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน แต่นักโทษหญิงวัย 24 ปี คนหนึ่งที่ลงคะแนนเสียงให้ลอร่า ชินชิลล่า บอกว่า "ฉัน เลือกลอร่า ชินชิลล่า เพราะเธอสัญญาว่าเธอจะต่อสู้เพื่อผู้หญิง เธอเป็นคนเดียวที่มาเยี่ยมพวกเราและบอกพวกเราเกี่ยวกับนโยบายของเธอ และฉันเชื่อเธอ"


อันดับที่ 9 Kamla Persad-Bissessar

Kamla Persad-Bissessar ประธานาธิบดีของตรีนิเดด


อันดับที่ 8 Tarja Halonen
ตารยา การินา ฮาโลเนน (ฟินแลนด์: Tarja Kaarina Halonen Loudspeaker.svg [tɑrjɑ kɑːrinɑ hɑlonen] เป็นประธานาธิบดีของประเทศฟินแลนด์คนที่ 11 และคนปัจจุบัน ฮาโลเนนเข้ารับตำแหน่งสมัยแรกในปีพ.ศ. 2543 โดยเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ และได้รับเลือกอีกครั้งในปีพ.ศ. 2549 ก่อนหน้านี้ ฮาโลเนนเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศ ฮาโลเนนสังกัดพรรคสังคมประชาธิปไตยฟินแลนด์ (Suomen Sosialidemokraattinen Puolue)


อันดับที่ 7 Ellen Johnson Sirleaf
Ellen Johnson-Sirleaf ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี และเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนมกราคม 2549 (ค.ศ. 2006) จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ นาง Johnson-Sirleaf เป็นบุคคลซึ่งได้รับการยอมรับและรู้จักอย่างกว้างขวางบนเวทีระหว่างประเทศ เนื่องจากมีภาพลักษณ์ของผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ทางการปฏิรูป อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการทำงานกับองค์การสหประชาชาติ อย่างไรก็ดี นาง Ellen ยังคงมีฐานความนิยมทางการเมืองในไลบีเรียน้อย


อันดับที่ 6 Sheik Hasina Wajed
Sheik Hasina Wajed นายกรัฐมนตรีของประเทศบังคลาเทศ


อันดับที่ 5 Angela Merkel
แมร์เคิ่ล มีชื่อเต็มว่า อังเกลา โดโรเธีย คาสเนอร์ เกิดเมื่อปี 1954 ในเมืองฮัมบวร์ก มี คุณพ่อเป็นนักบวชศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ คุณแม่เป็นครู หลังจากเกิดได้ไม่นาน คุณพ่อคุณแม่ของเธอได้อพยพไปยังเยอรมนีตะวันออก แมร์เคิ่ลจบดอกเตอร์ด้านฟิสิกส์ ทำงานวิจัยเกี่ยวกับทฤษฏีควอนตัม พูดคล่องทั้งภาษาเยอรมัน อังกฤษ และรัสเซีย ขอเดาว่าเวลาเจอประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย คงจะพูดรัสเซียกันไฟแล่บเลยทีเดียว ติดอะไรมาน่ะตัว เบี้ยวรึเปล่าจ๊ะ? แมร์ เคิ่ลก้มหน้าก้มตาทำงานวิจัยทดลองของเธอ จนกระทั่งในปลายทศวรรษ 80s ที่เธอเริ่มหันมาสนใจการเมืองบ้าง โดยเธอได้สมัครเป็นสมาชิกกลุ่ม Democratic Renewal ต่อต้านรัฐบาลเยอรมนีตะวันออก หลัง จากกำแพงเบอร์ลินล่มสลาย เมอร์เคิ่ลย้ายมาอาศัยอยู่ในเยอรมันตะวันตก และเริ่มเข้าสู่การเมืองโดยเข้าเป็นสมาชิกพรรคสหภาพคริสเตียนประชาธิปไตย (CDU) เป็นที่รู้กันดีว่า เฮลมุท โคห์ล นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น สนับสนุนเธอเป็นพิเศษ เพราะต้องการฐานเสียงจากเยอรมันตะวันออก แมร์เคิ่ลได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงครอบครัวและผู้หญิง และกระทรวงสิ่งแวดล้อม เป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในยุคนั้น ก้าว กระโดดทางการเมืองของแมร์เคิ่ลมาถึงในปี1999 เมื่อพรรค CDU ต้องเผชิญกับข้อครหารับเงินสนับสนุนพรรคอย่างผิดกฏหมาย ทำให้ชื่อเสียงของนายกรัฐมนตรีโคห์ล, ว่าที่ผู้นำพรรคคนต่อไปอย่าง โวล์ฟกัง ชอยเบิล และนักการเมืองคนอื่นๆ ในพรรคย่ำแย่ไปตามๆ กัน แมร์เคิ่ลจึงกลายเป็นตัวเลือกของสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ที่จะฉุดภาพลักษณ์ของ พรรคให้ดีขึ้น เธอได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคในปี 2000 แน่ นอนว่ามีแรงต้านจากนักการเมืองในพรรคไม่น้อย โดยเฉพาะนักการเมืองผู้ชาย แต่จะว่าไปแล้ว แมร์เคิ่ลเจอแรงต้านมาโดยตลอดในหลายๆ ด้าน เช่น เรื่องสถานภาพครอบครัวของเธอ พรรค CDU ซึ่งเป็นพรรคค่อนข้างเคร่งศาสนาคริสต์นิกายแคธอลิก ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องครอบครัวมาก แต่แมร์เคิ่ลนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ เป็นแม่ม่ายหย่าสามี และไม่มีลูก แม้เธอจะแต่งงานใหม่เมื่อปี 1998 แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของเธอเข้ากับพรรคอย่าง CDU ได้มากนัก หรือ ข้อครหาว่าเธอเป็นคอมมิวนิสต์ เพราะสมัยเป็นวัยรุ่น แมร์เคิ่ลเคยเป็นสมาชิกองค์กรเยาวชนคอมมิวนิสต์ ที่ชื่อว่า Free German Youth Organization เธอบอกว่าเธอทำไป ก็เพื่อที่จะได้มีที่เรียนในมหาวิทยาลัย โชคดีที่เธอไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญอะไรมากในองค์กร ข้อกล่าวหาก็เลยฟังไม่ขึ้น แม้ กระทั่งเรื่องรูปลักษณ์ของเธอก็ตกเป็นขี้ปากของคน สมัยที่แมร์เคิ่ลเล่นการเมืองใหม่ๆ ใครๆ ก็หัวเราะเยาะเธอ ด้วยความที่เธอไม่แต่งตัว ทำผมทรงเชยๆ ใส่ชุดสูทโทรมๆ นักการเมืองมักจะพูดกันลับหลังว่า "โอ๊ย จะคาดหวังอะไรมากกับพวก Ossie (ชาวเยอรมันตะวันออก)" ขนาดหนังสือพิมพ์ยังชอบลงรูปของเธอที่ดูเหมือนว่าเธอเป็นพวกสหายจากลัทธิ คอมมิวนิสต์ ซึ่งเธอไม่เคยเป็น เวลาเจอเรื่องแบบนี้ เธอมักจะตอบกลับว่า "คนที่ฉลาดมีกึ๋น มีเรื่องจะพูด ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางค์หรอก" <<< แต่ถ้าพูดถึงเรื่องการแต่งตัวนั้น ก็ต้องบอกว่า ตั้งแต่เธอได้เป็นตัวแทนเข้าลงชิงชัยตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2005 รูปลักษณ์ของแมร์เคิ่ลก็เปลี่ยนไป เธอจ้างสไตลิสต์ เปลี่ยนทรงผมและการแต่งตัวของเธอใหม่ รวมทั้งเริ่มแต่งหน้าด้วย กลายเป็นแมร์เคิ่ลนิวลุค ที่ถ้าเอารูปในอดีตมาเทียบกับปัจจุบันแล้ว ต้องบอกว่าเปลี่ยนไปแทบเป็นคนละคนเลยทีเดียว


อันดับที่ 4 Dalia Grybauskaite
Dalia Grybauskaite ประธานาธิบดีลีทัวเนีย


อันดับที่ 3 Cristina Fernández de Kirchner
คริสติน่า เป็นชื่อที่คนอาร์เยนติน่ารู้จักเธอชื่อเต็มคือ Cristina Elisabet Fernández de Kirchner เกิดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1953 ที่เมือง La Plata จังหวัดบัวโนส ไอเรส หรือเกิดได้ 7 เดือน ต่อมา เอวิต้า เปรอง อดีตภรรยา(คนที่สอง)ของประธานาธิบดีฮวน เปรอง ก็ถึงแก่กรรม คริ สติน่าเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งที่ดูดี เพราะเคยกล่าวว่าการมีรูปร่างดีจะทำให้เกิดความประทับใจแก่ผู้พบเห็น ในฐานะนักการเมืองในช่วง 2 เดือนก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเธอเดินทางไปยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพื่อ พูดให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในประเทศอาร์เยนติน่า เครดิตของเธอดีถึงขนาดว่าประธานาธิบดีฮิวโก้ ชาเวซ แห่งเวเนซูเอล่าผู้ร่ำรวยด้วยน้ำมันดิบยอมยืดอายุเงินกู้ 5 พันล้านดอลลาร์แก่อาร์เยนติน่าออกไปอีก อาร์เยนติน่ามีสตรีคนที่สองที่เป็นประธานาธิบดี คนแรกในช่วง 1974 เมื่ออิสาเบล เปรอง(Isabel Peron)รองประธานาธิบดีขึ้นครองตำแหน่งแทนสามีนายพลฮวน เปรอง เมื่อเขาถึงแก่กรรม แต่อิสาเบลไม่ได้ผ่านการเลือกตั้งเหมือนคริสติน่า


อันดับที่ 2 Johanna Sigurdardottir
Johanna Sigurdardottir เป็นชาวไอส์แลนด์ เกิดที่เมือง Reykjavik ศึกษาที่ Commercial College of Iceland หลังจบการศึกษาได้ทำงานเป็น แอร์โฮส์ทเตส ที่สายการบิน Loftleiðir แต่เธอไม่หยุดยั้งชีวิตเพียงเท่านั้นเธอได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับ องค์กร และสมาคมผู้ใช้แรงงาน และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนในปี 1978 ในนามพรรค Social Democratic Party และต่อมาในปี 1984 เธอได้รับการโหวตให้เป็นหัวหน้าพรรค และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีอีกหลายตำแหน่ง ในปี 2008 ไอส์แลนด์ประสบณ์วิกิตการทางการเงินขั้นรุนแรง จนเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ต้องขอรับการช่วยเหลือ จาก IMF ทำให้นายกรัฐมนตรี Geir Haarde และคณะรัฐมนตรีของไอส์แลนด์ต้อง แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกทั้งคณะ ทำให้ Johanna Sigurdardottir ก้าวขึ้นรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน โดยชีวิตส่วนตัวของ Johanna Sigurdardottir ได้เปิดเผยตัวว่าิเป็นพวกรักรุ่วมเพศ ( หญิงรักหญิง ) และได้ทำการแต่งงานถูกต้องตามกฎหมายกับแม่หม้ายลูกติดนามว่า Jonina Leosdottir


อันดับที่ 1 Julia Eileen Gillard

จูเลีย ไอลีน กิลลาร์ด (อังกฤษ: Julia Eileen Gillard) เกิดเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1961 เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของออสเตรเลีย และเป็นนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงของแรกและเป็นคนแรกที่ยังไม่เคยสมรสมาก่อน[1] กิลลาร์ดได้รับเลือกเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในฐานะผู้แทนของเขตเลือกตั้งลา เลอร์ ในปี ค.ศ. 1998 จากนั้นในปี ค.ศ. 2001 หลังจากที่พรรคแรงงานพ่ายแพ้การเลือกตั้ง เธอได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรีเงาในตำแหน่งรัฐมนตรีเงา กระทรวงประชากรและการอพยพย้ายถิ่น ในเดือนกรกฎาคมปี ค.ศ. 2006 เธอได้เป็นรัฐมนตรีเงากระทรวงสาธารณสุข ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2006 ภายใต้รัฐบาลของเควิน รัด เธอเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของออสเตรเลีย พร้อมตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และสวัสดิการสังคม ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2010 เธอดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของออสเตรเลีย




ขอบคุณข้อมูล : http://www.toptenthailand.com

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

บทความสุดท้าย


ของ  นางสาวณัฐวดี     น้อยจินดา  เลขที่  21  ชั้น ม. 5\9
เรื่อง  6  หนุ่มชุลมุลวุ่นรัก




เนื้อเรื่องย่อ

เรื่องราวเด็กหนุ่ม 6 คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อ๋าวฉวน หวังจึ เสี่ยวอวี้ เสี่ยวเจี๋ย เวยเหลียนและอาเหว่ย วันหนึ่งเมื่อพวกเขาต้องมาพบว่าตัวเองเป็นพี่น้องกัน มีพ่อคนเดียวกันแต่ต่างมารดาซึ่งเป็นมหาเศรษฐี และต้องมารับมรดกตกทอดจากพ่อเป็นเงิน หนึ่งหมื่นล้าน แต่มีข้อแม้ภายในหนึ่งปีทั้งุ 6 คนจะต้องอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน เรียนหนังสือด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกันต้องกลายเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างแท้จริงในขณะที่เข้าไปเรียนในโรงเรียนเดียวกันทั้ง6 หนุ่มก็ต้องปะทะกับสิบสาวพี่น้องและเรื่องราววุ่นๆบวกกับความรักก็เกิดขึ้น และเหตุการณ์ที่ต้องพิสูจน์ความสัมพันธุ์ระหว่างพี่น้อง ค่อยติดตามดูว่าความสัมพันธุ์ของพวกเขาจะป็นอย่างไรพวกเขาจะผ่านพ้นอุปสรรค์และเป็นครอบครัวเดียวกันได้หรือเรื่องราวความรักคอยติดตามชมใน ละครเรื่อง 6หนุ่มชุลมุลวุ่นรัก  จร้าาาาาา.....







 








Thankyou...

hilight.kapook.com





วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บทความสุดท้าย

ของ นางสาวนาฎนภา  พิพรพงษ์  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/9  เลขที่ 34
         บทความสุดท้ายที่ดิฉันจะเขียนนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำรงชีวิตของเรา โดยต้องอาศัยปัจจัยพื้นฐานทั้ง 4 ของมนุษย์ ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย  เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เพราะถ้าหากขาดสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ชีวิตของเราดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สมบูรณ์แบบเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นขอให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านได้นำความรู้ที่ได้จากบทความนี้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตจะได้ถูกต้องและมีชีวิตที่มีความสุข

ปัจจัยพื้นฐาน 4ในการดำรงชีวิต

อาหาร

          อาหาร เป็นสิ่งที่ทุกสิ่งมีชีวิตต้องรับประทานเข้าไป แต่ทุกคนก็รับประทานเข้าไปอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการบ้าง ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการบ้าง มาวันนี้จึงมาบอกถึงวิธีที่ถูกต้องมาดูกัน
อาหารหลัก 5 หมู่ ประกอบด้วย ดังต่อไปนี้

             ในเรื่องต่อไปก็ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่อาศัยที่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตของเรามีความสุข ดังคำกล่างที่ว่า ไม่มีที่ไหนสุขเท่ากับบ้านของเราอีกแล้ว  ดิฉันก็เชื่อแบบนั้นเช่นเดียวกัน
ไม่จำเป็นต้องเป็นบ้านที่หลังใหญ่ แค่ทุกคนมีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านก็เพียงพอแล้ว
                                                         

ที่อยู่อาศัย


เครื่องนุ่งห่ม

             สำหรับเรื่องของเครื่องนุ่งห่มนั้นก็สำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเป็นเครื่องปกปิดร่างการ ทั้งป้องกันความหนาว  ความร้อนแล้วยังช่วยป้องกันและค้มกันปกป้องความเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรเหมาะสม เพราะฉะนั้นเราต้องมีเครื่องนุ่งห่มปกปิดร่างกาย และเมื่อเราจะแต่งกายอย่างไร ควรคำนึงถึงหลักของกาลเทศะด้วยนะค่ะ




ยารักษาโรค

             สำหรับเรื่องยารักาโรคก็เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตของเราเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นส่วนช่วยให้การดำรงชีวิตของเราให้ดำเนินต่อไปได้โดยสะดวกมากขึ้น จึงสำคัญเช่นกัน ยาทุกชนิดมีทั้งประโยชน์และโทษแตกต่างกันไป ต้องใช้ให้ถูกต้องตามความจำเป็นด้วยนะค่ะ ต้องมีตู้ยาสามัญประจำบ้านด้วย

              สุดท้ายนี้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่าน ก็คงจะได้รับความรู้จากบทความนี้นะค่ะ และถ้าหากมีสิ่งใดขาดตกบกพร่องไป หรือผิดพลาดประการใดไปก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ทิ้งท้ายนี้ขอให้ทุกคนได้ชมวิดิโอกันนะค่ะ
                                                            
  อันตรายจากอาหาร


มาตรฐานที่ดีของที่อยู่อาศัย

 

เครื่องนุ่งห่มป้องกันภัยหนาว


 การรักษาโรคด้วยการสวดมนตร์

ขอบคุณที่มา
        www.vcharkarn.com
     www.youtube.com

 หวังว่าทุกท่านคงได้รับความรู้กันอย่างมากมายนะ ค่ะ                                                       
หากมีสิ่งใดผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ                                                                  
                                  






บทความสุดท้าย

ของ นางสาวภัคธนกุล  ทองวงศ์สกุล ม.5/9 เลขที่37

บทความนี้เป็นบทความสุดท้าย พอดีดิฉันชอบวงpancake และดิฉันคิดว่า เพื่อนๆคงจะชอบเหมือนฉัน และที่ดิฉันทำขึ้นก็เพราะ อยากไห้เพื่อนๆรุ้ประวัติวงpancake และสมาชิกในวงค่ะ...

ประวัติวงPancake

 

ประสบความสำเร็จไปไม่น้อยเหมือนกันกับอัลบั้ม "ก๋วยเตี๋ยวหน้าใสกับใจโทรมๆ" อัลบั้มแรกของห้าหนุ่มวง "แพนเค้ก" ที่ประกอบไปด้วย "นิ้งหน่อง - ทินกร พึ่งตาราวี" (ร้องนำ) "โจ - เหมือนเพชร อำมะระ" (กีต้าร์) "พีท - กฤษฎิ หาญเจริญวนะภูษิต" (กีต้าร์) "เบนนี่ - อธิสสร ชวาลา" (เบส) และ "ยอด - อาทิตย์ รัตนพันธ์" (กลอง) วันนี้วง แพนเค้ก กลับมาอีกครั้งพร้อมชื่ออัลบั้มเก๋ๆ ว่า "ผัดกะเพรากับเรา 2" ภายใต้สังกัด ทัดดอกไม้ ในเครือ ก้านคอคลับ โดยมี "โจอี้ บอย" นั่งแท่นผู้บริหาร

งานเปิดตัวอัลบั้ม ผัดกะเพรากับเรา 2 มีขึ้นเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยงานนี้ได้มีการแนะนำค่ายเพลงน้องใหม่อย่างค่าย ทัดดอกไม้ ซึ่ง โจอี้ บอย ได้ปรากฏตัวผ่านวีทีอาร์เผยว่า

"ค่าย ทัดดอกไม้ จะเป็นค่ายในส่วนของวงที่เล่นดนตรีสด ซึ่งจะแตกต่างจากค่าย ก้านคอคลับ ที่จะเป็น ฮิปฮอป เรกเก้ แดนซ์ฮอลล์ และ อาร์แอนด์บี ซึ่งศิลปินของทัดดอกไม้ก็จะมี แพนเค้ก เป็นศิลปินกลุ่มแรกที่ตอนนี้ก็ออกอัลบั้มชุดที่ 2 แล้ว และในอนาคตก็จะมีวงอื่นตามมาอีกเรื่อยๆ ยังไงก็ขอฝากค่าย ทัดดอกไม้ และน้องๆ วง แพนเค้ก ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกๆ คนด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ"

จากนั้นห้าหนุ่มวง แพนเค้ก ก็ได้ขึ้นเวทีเพื่อร่วมพูดคุยถึงการทำงานในอัลบั้มชุดนี้ โดย นิ้งหน่อง กล่าวว่า "เพลงในอัลบั้มชุดนี้ก็แต่งมาจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นของแต่ละคนครับ ถึงแม้จะเป็นเพลงแนวร็อก แต่ก็เป็นร็อกที่ออกแนวสนุกสนานครับ ส่วนเสื้อผ้าที่เห็นสีแสบสันนั้น เกิดมาจากความคิดของพวกเราที่เห็นว่าทุกวันนี้สังคมเต็มไปด้วยความเครียด เราเลยเลือกเสื้อผ้าสีสันซึ่งเป็นสีที่แต่ละคนชอบ มาเป็นคอนเซ็ปต์เสื้อผ้าของพวกเราครับ ทุกครั้งเวลาที่เราไปที่ไหน คนเห็นแล้วก็จะได้หายเครียด ยิ้มได้ สนุกสนาน"

ส่วน โจ ที่เป็นทั้งโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงให้กับวง แพนเค้ก เล่าว่า "จริงๆ เราปล่อยเพลง วันแห่งความรัก ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเป็นการทดลองการทำเพลง หลังจากที่เราได้ออกทัวร์คอนเสิร์ตแล้วก็หายไปเป็นปี ซึ่งก็ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และถือเป็นการขอบคุณแฟนเพลงด้วยการมอบเพลงนี้ให้ด้วยครับ"

ด้าน พีท เผยว่า "ที่มาของชื่ออัลบั้ม ผัดกะเพรากับเรา 2 ก็เพราะว่าอาหารเป็นสิ่งที่จำเป็น ขาดไม่ได้ ก็เหมือนความรักที่เราอยากถ่ายทอดผ่านเพลงในอัลบั้มชุดนี้ โดยทุกเพลงก็แต่งขึ้นมาจากประสบการณ์ความรักของพวกเราแต่ละคน อย่างเพลง จริงใจไม่จริงจัง ก็แต่งขึ้นจากประสบการณ์ความรักของ ยอด ครับ" เมื่อถูกพาดพิงถึง ยอด เลยเล่าว่า "ผมเป็นคนหน้าตาไม่ดี แต่ว่ามีเวลาให้ครับ (หัวเราะ) คือเรื่องเกิดขึ้นตอนช่วงที่ไปออกทัวร์คอนเสิร์ต เหมือนว่าเราจริงใจทุ่มเทกับผู้หญิงคนหนึ่งมาก แต่เราไม่รู้เลยว่าเค้ามีกิ๊กเยอะแค่ไหน พูดแล้วเศร้าครับ"

มาถึง เบน ซึ่งเล่าถึงเพลงในอัลบั้มชุดนี้ว่า "อัลบั้มนี้ก็มีทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว ซึ่งเราคิดว่าเราทำเพลงช้ามาถูกทางแล้วครับ แต่ไม่ใช่เพลงเร็วไม่จำเป็น เพราะเวลาขึ้นคอนเสิร์ตจะเล่นเพลงช้าอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเล่นเพลงเร็วด้วยครับ"

จากนั้นวง แพนเค้ก ได้เล่นเพลงในอัลบั้มนี้ เริ่มด้วยเพลง "จริงใจไม่จริงจัง" ตามด้วยเพลง "ผัดกะเพรากับเราสอง" ซึ่งหลังจบเพลงนี้ นิ้งหน่อง ได้กล่าวถึงเพลงที่จะร้องต่อไปว่าเป็นเพลงที่อยากมอบให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งวันนี้นั่งอยู่ในที่นี้ด้วย จากนั้นจึงเริ่มร้องเพลง "อยากจับมือเธอมาวางไว้" และระหว่างที่ร้องเพลงนี้ นิ้งหน่อง ก็สร้างความประหลาดใจด้วยการเดินลงจากเวที ตรงไปที่สาวน้อยหน้าแฉล้มคนหนึ่ง พร้อมกับดึงเธอเข้ามาสวมกอด ท่ามกลางความตกตะลึงของบรรดาสื่อมวลชนและแฟนคลับในวันนั้น ก่อนจะเฉลยให้ฟังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอแบบสดๆ นั่นเอง

แล้ววง แพนเค้ก ก็ร้องเพลงสนุกๆ อย่างเพลง "คนไหนบ้าง" เป็นเพลงปิดท้าย สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานของ แพนเค้ก ติดตามอัลบั้ม ผัดกะเพรากับเรา 2 ได้แล้วตั้งแต่ 19 มิถุนายน 2550 เป็นต้นไป

ประวัติศิลปินวงแพนเค้ก

ศิลปิน...ทินกร พึ่งตาราวี ( นิ้งหน่อง )
วันเกิด...24 เมษายน 2526
ราศี...เมษ
การศึกษา...คณะนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
งานอดิเรก...เล่นดรตรี ร้องเพลง ถ่ายภาพ
เป็นนักร้องนำ

====================================================

ศิลปิน...กฤษฎี หารเจริญวนภูษิต ( พีท )
วันเกิด...1 กรกฎาคม 2528
ราศี...กรกฎ
การศึกษา...คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยราชมงคล วิทยาเขตธัญบุรี
งานอดิเรก...เล่นดนตรี

====================================================

ศิลปิน...เหมือนเพชร อำมะระ ( โจ )
วันเกิด...6 มิถุนายน 2526
ราศี...เมถุน
การศึกษา...คณะบริหารการจัดการ มหาวทยาลัยศรีประทุม

====================================================

ศิลปิน...อธิสสร ชวาลา ( เบน )
วันเกิด...14 พฤศจิกายน 2527
ราศี...พิจิก
การศึกษา...คณะนิเทศศาสตร์ เอกประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
งานอดิเรก...เล่นดนตรี

====================================================

ศิลปิน...อาทิตย์ รัตนพันธ์ ( ยอด )
วันเกิด...13 มกราคม 2523
ราศี...มังกร
การศึกษา...คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
งานอดิเรก...เล่นดนตรี แต่งรถ

====================================================

เรามาลองดูคริปวิดีโอ ที่(รร.อีเทค)ได้มาพูดคุยกับวงpancake


วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ซ่อม

ซ่อม
นางสาวชนาภา  สงค์สะนะ

1.  สื่อประสมเรียนอีกชื่อว่าอะไร
ก  Media
ข  Multimedia
ค  Interactive Multimedia
ง  Multi
เฉลย  ข


2.  ข้อใดคือความหมายของสื่อประสมในปัจจุบัน
ก  สื่อประสมเชิงบรรยาย
ข  สื่อประสมเชิงโต้ตอบ
ค  สื่่อประสมเชิงคำถาม
ง  สื่อประสมเชิงแนะนำ
เฉลย  ข


3  บล็อกเกอร์คิดค้นโดย ไพรา แลบส์ ใน พ.ศ. ใด
ก  2542
ข  2524
ค  2544
ง  2522
เฉลย  ก

4  ประโยชน์ของสื่อประสม  ข้อใดผิด
ก  ด้านการเรียนการสอน
ข  สร้างสื่อเพื่อความบันเทิง
ค  สร้างสื่อเพื่อขายของหนีภาษี
ง  สร้างสื่อเพื่อโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์
เฉลย  ค


5 ปี ค.ศ. ใดที่คนเขียนบล็อกได้รับการยอมรับจากสื่อ
ก  2004
ข  2005
ค  2006
ง  2007
เฉลย  ก


6  Blog  เป็นคำรวมมาจากคำว่าอะไร
ก  woldblog
ข  winblog
ค  weblog
ง  wordblog
เฉลย  ค


7  ภาพกราฟฟิกเคลื่อนไหวเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร
ก  admisstion
ข  animation
ค  aqqication
ง  carnation
เฉลย  ข


8  มัลติ  แปลว่าอะไร
ก  ความแตกต่าง
ข  ความเหมือน
ค  ความหลากหลาย
ง  ข้อ ก และ ค
เฉลย  ค


9  จุดเด่นที่สุดของบล็อก คือ
ก  จุดมุ้งหมายเดียวกัน
ข  ความสวยงาม
ค  ความบันเทิง
ง  ประสบการณ์ชีวิต
เฉลย  ก


10  บล็อกเป็นสื่อประสมประเภทอะไร
ก  เทคโนโลยีสารสนเทศ
ข  เทคโนโลยีเพื่อการผลิต
ค  เทคโนโลยีนวัตกรรม
ง  เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
เฉลย  ก

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สานฝันสู่ประชาคมอาเซียน......

ประเทศไทย

               





ประเทศลาว

                                                

 


ประเทศพม่า





ประเเทศกัมพูชา






ประเทศเวียดนาม








ประเทศอินโดนีเซีย








ประเทศฟิลิปปินส์






ประเทศบรูไน






ประเทศสิงคโปร์




 
ประเทศมาเลเซีย












แหล่งอ้างอิงข้อมูล : dailynews.co.th